18 กุมภาพันธ์ 2554

มากกว่า "การเล่นหุ้น"


สำหรับคำกล่าวที่ว่า คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น หลายๆคนคงคุ้นกับคำๆนี้ จนอดเชื่อตามไม่ได้ ว่าการซื้อหุ้น ก็คงไม่ต่างต่างไปกับการซื้อหวย เป็นเรื่องของดวง เรื่องของโชคซะมาก วันนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะหยิบยกประเด็นนี้มาพูดกัน เนื่องจากความเข้าใจผิดดังกล่าวเป็นการปิดกั้นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่มีศักยภาพที่จะลงทุนได้เกิดความเข้าใจผิด และหันหลังให้กับตลาดหุ้นในที่สุด

เรื่องของเรื่อง ก็คือ คำว่า"เล่น" เป็นคำที่คนไทยชอบใช้กับสิ่งที่มองว่าไม่ดีเท่าไร อย่างที่ได้ยินกันมากๆก็คือ เล่นการเมือง เล่นพนันบอล เล่นหวย สืบเนื่องว่าถึงเล่นหุ้น โดยเข้าใจว่าที่มาก็คำกล่าวนี้อาจเป็นเพราะคนจำนวนไม่น้อยในตลาดหุ้น นิยมซื้อขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นๆ หวังแค่ส่วนต่างของราคาเล็กๆน้อยๆ โดยการเข้าซื้อหุ้น ไม่ได้เกิดจากการศึกษาข้อมูลบริษัทอย่างถี่ถ้วนแต่เข้าซื้อเพราะได้ยินข่าวดีมา หรือมีพรายกระซิบ ซื้อทั้งๆที่ไม่รู้ว่าบริษัทที่ซื้อนั้นทำธุรกิจอะไร แบบนี้ การใช้คำว่า"เล่น"หุ้นก็คงไม่ผิดนัก



แต่ อยากให้ทราบเหลือเกินว่า....

หากคุณอยากรวย คุณต้อง"ลงทุน" ไม่ใช่"เล่น"

หากคุณอยากมีความมั่นคง คุณต้อง"ลงทุน" ไม่ใช่"เล่น"

หากคุณอยากได้อิสรภาพทางการเงิน คุณต้อง"ลงทุน"ในหุ้น ไม่ใช่"เล่น"หุ้น

คุณต้องลงทุนในหุ้นให้เหมือนกับทำธุรกิจกับเพื่อน ไม่ใช่รวมเงินกับเพื่อนเพื่อซื้อเกมมาเล่นเอามันอย่างเดียว แบบนี้ไม่มีวันรวย

ถามว่า จะทำยังไง ให้การซื้อหุ้นเป็นมากกว่า "การเล่นหุ้น" คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะเชื่อเหลือเกินว่าใครหลายๆ คน อยากมีธุรกิจส่วนตัวกันทั้งนั้น

สังเกตได้ จากร้านค้าที่ผุดขึ้นมากมาย มากซะจนมีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายเสื้อฟ้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากค่านิยมของคนสมัยใหม่ที่ไม่ต้องการเป็นลูกจ้าง ไม่ต้องการเป็นมนุษย์เงินเดือน หรืออาจลองถามตัวคุณเองก็ได้ว่าถ้ามีเพื่อนสนิทมาชวนคุณลงทุนทำธุรกิจ ซึ่งฟังดูแล้วมันน่าสนใจทีเดียว เราจะมีความสนใจที่จะลงทุนไหม เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะสนใจ เพราะโดยพื้นฐานคนสมัยนี้เชื่อในระบบทุนนิยม มองว่าการทำธุรกิจเป็นทางออกที่จะทำให้เราสามารถมีชีวิตที่อิสระได้....นอกเรื่องไปนาน กลับเข้าเรื่องของเราต่อดีกว่าว่า ซื้อหุ้นอย่างไร ให้มากกว่าการ"เล่น"หุ้น นั่นก็คือ มองให้การซื้อหุ้น แต่ละครั้ง คือการทำธุรกิจกับเพื่อน

ตัวอย่างแนวความคิดเพื่อการลงทุน

เพื่อนคนหนึ่ง ยินดีบริหารจัดการร้านให้กับเรา เรามีหน้าที่เพียงแค่ใส่เงินทุนลงไปเท่านั้น... ถ้าเราคิดแบบนี้ เราก็จะเริ่มสนใจที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจมากขึ้น สนใจที่จะศึกษาว่าเงินลงทุนที่เราจะเสียไปนั้น มีความคุ้มค่า แพงหรือสูงไปหรือไม่ เราจะเริ่มมองความสามารถในการทำกำไร ผลตอบแทนที่เราจะได้รับ ตลอดจนระยะเวลาคืนทุน

อย่างไรก็ดี การลงทุนในตลาดหุ้นจริงๆนั้น มีข้อดีมากกว่าการลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อนหรือแม้แต่การเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้น ล้วนเป็นบริษัทที่ขายสินค้าที่มีชื่อเสียง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วกว่าจะเติบโตได้มาถึงวันนี้ สินค้าได้รับการยอมรับจากสังคมมาอย่างยาวนาน และเป็นสินค้าที่อยู่รอบๆตัวเรา หรือเราก็มักจะได้ใช้บริการสินค้าเหล่านั้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า เครื่องดื่ม ร้านเบเกอรี่ เครื่องเขียน ไปจนถึงบะหมี่สำเร็จรูป ดังนั้น การลงทุนในธุรกิจที่ติดตลาดอยู่แล้วจึงลดความเสี่ยงที่ธุรกิจจะไปไม่รอดไปได้มากเลยทีเดียว ข้อนี้ คนที่เคยทำธุรกิจส่วนตัวแล้วล้มไม่เป็นท่าจะเข้าใจดี ว่าปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหม่จะเข้าไปเจาะตลาดได้นั้น มีความยากเย็นเพียงใด การลงทุนในบริษัทที่มีสินค้าที่ได้รับการยอมรับอยู่แล้วจึงเป็นทางลัดในการทำธุรกิจได้ดี เช่น อยากทำร้านเบเกอรี่ มันก็คงง่ายกว่าถ้าคุณซื้อหุ้นของบริษัท S&P การถือหุ้นเท่ากับการเป็นเจ้าของ ดังนั้น คุณจะเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดไปเพื่ออะไร เมื่อคุณสามารถเป็นเจ้าของร้าน S&P ได้ เพียงแค่คุณซื้อหุ้นเขาเท่านั้น

อย่างไรก็ดี การเข้าไปซื้อหุ้นผ่านตลาดหุ้นนั้น แม้จะมีข้อดี จากที่กล่าวมา คือเรื่องการได้เป็นเจ้าของร้านที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว แต่ก็มีข้อจำกัด เนื่องจากราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหุ้นส่วนใหญ่จะมีราคาที่มากกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท เนื่องจากราคาของหุ้นเกิดจากความคาดหวังของนักลงทุน คาดหวังว่าบริษัทต่างๆนั้นจะไปได้ดีกว่าปัจจุบัน ทำให้ราคามักวิ่งเร็วกว่ามูลค่า ดังนั้น หน้าที่ของนักลงทุนก็คือเราต้องพิจารณาให้ได้ว่าราคาที่เป็นอยู่นั้น เหมาะสมที่เราจะลงทุนหรือไม่ และเนื่องจากราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลงไปในทุกวันตามสภาวะและอารมณ์ของตลาด ดังนั้น เราจึงต้องใช้ความรู้ ใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อคำนวณมูลค่าที่เหมาะสม โดยให้คิดว่า หากเพื่อนคุณ สมมติชื่อ นายแปรปรวน ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ในที่นี้ สมมติเป็น ร้าน S&P ต้องการให้คุณเข้าเป็นหุ้นส่วนในร้านด้วย จึงเดินมาหาคุณทุกวัน เพื่อมาเสนอขายหุ้นให้คุณ โดยนายแปรปรวนจะเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น S&P ทุกวันตามอารมณ์และสภาพตลาดในวันนั้นๆ คุณในฐานะนักลงทุน จะทำอย่างไร หากคุณสนใจต้องการซื้อหุ้นดังกล่าว ????................................

.................แน่นอน คำตอบ คือ คุณจะรอให้ นายแปรปรวน อารมณ์ดี ยอมลดราคาหุ้น และขายหุ้นให้คุณถูกๆ ใช่ไหม? ใช่!!!! ทุกคนจะตอบแบบนี้

แต่!!!!!! รู้หรือไม่? ทุกวันนี้ ตลาดหุ้นเป็นที่ที่เดียวที่คนซื้อหุ้นส่วนใหญ่ จะซื้อหุ้นในวันที่ราคาขึ้น(แพง) จะซื้อในวันที่นายแปรปรวนโก่งราคา ???? ทำไมน่ะหรอ ก็เพราะโลภไง ทุกคนคิดว่าพรุ่งนี้ราคาหุ้นมันจะขึ้นต่อ คิดว่าถ้าซื้อหุ้นวันนี้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยไปขายต่อคนอื่นได้ในราคาที่แพงกว่า .... แต่อะไรรู้ไหม มันมักจะไม่เป็นอย่างที่คิดไง นี่คือเหตุผลที่ทำให้คนเล่นหุ้นมากกว่าร้อยละ 90 ขาดทุนในตลาดหุ้น#%@$!

บทสรุปของบทความนี้ แค่ต้องการเสนอให้เห็นมุมมอง ของการลงทุนในหุ้นที่ควรจะเป็น

แนวทางการลงทุนที่จะทำให้คุณ เข้าถึงการเป็นนักธุรกิจ

เพื่อต่อยอดให้คุณ สามารถเดินเข้าใกล้เป้าหมายของอิสรภาพทางการเงินมากขึ้นเท่านั่นเอง....มิได้มีเจตนาพาดพิงผู้ใด..''

By 2Binvestor

1 ความคิดเห็น:

  1. เขียนเข้าใจง่ายดี...จะต้องลองนำไปใช้ดูบ้าง

    ตอบลบ