26 เมษายน 2555

"มาม่าบลู" (เจ๊สีฟ้า) นักเก็งกำไรหุ้นตัวยง

มาม่าบลู หรือ มาดามบลู หรือ เจ๊สีฟ้า ที่ใครๆรู้จักกัน และโด่งดังมากเมื่อหลายปีก่อน เป็นเซียนหุ้นรายใหญ่ระดับประเทศที่มีสไตล์การเข้าออกแบบ aggressive และ โครมครามเสมอ ถ้าเธอเข้าตัวไหน เราๆท่านๆ จะซื้อไม่ค่อยทัน ส่วนคนที่ซื้อทัน จะได้รับกำไรมหาศาลภายในวันเดียว ขณะเดียวกัน เวลาที่เธอขาย เธอไม่ได้สั่งให้วางขายที่ราคาเท่านั้นเท่านี้ เธอสั่งขายเป็นจำนวน "ขายไปก่อน 5 ล้านหุ้น" ซึ่งหมายถึง ต้องขายทันที 5 ล้านหุ้น โดยจะขายไปที่ราคาเท่าไหร่ก็ได้ ...... คงเคยเห็นมาบ้างแล้วนะ ไอ้ประเภทที่ ซื้อทีเดียว 3 ช่องราคา หรือ ขายลงมาทีเดียว 3 ช่องราคาน่ะ นี่แหละเจ๊แกล่ะ !!!

ศรีฟ้า แจ่มวุฒิปรีชา หรือ มาม่าบลู จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี จากรั้วจามจุรี (CT19 ปี 2518) และก็มาคว้าปริญญาโท (เอ็มบีเอ) จากสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จากปากของมาม่าบลูเธอเล่าว่า ได้ยึดอาชีพเล่นหุ้นมาเกือบ 20 กว่าปีแล้ว ขณะที่ไม่ได้บอกว่าปัจจุบันมีพอร์ตลงทุนเท่าไหร่ แต่ในแวดวงนักลงทุนว่ากันว่า พอร์ตเธอมีระดับพันล้าน!


มาร์เก็ต เมกเกอร์ และโบรกเกอร์ในตลาดหุ้น เล่าให้ฟังว่า มาม่าบลู เป็นนักลงทุนรายย่อยมาก่อน และด้วยความใจกล้า ในยุคที่ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะย่ำแย่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เธอเข้าไปเลือกซื้อหุ้นประเภท "สามตัวสิบบาท"ไว้จำนวนมาก และเธอก็โชคดีที่หุ้นแต่ละตัวนั้นราคาพุ่งสูงทำกำไรมากกว่า 1000 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นเธอก็กลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์จนถึงทุกวันนี้!

มาม่าบลู กล่าวว่า เธอเล่นหุ้นก๊วนเดียวกับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีพอร์ตลงทุนระดับพันล้านเช่น สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือฉายา เสี่ยปู่ และ สอง วัชรศรีโรจน์ หรือฉายาเสี่ยสอง อย่างไรก็ตามมาม่าบลูบอกว่าเธอเล่นหุ้นกับทุกคนที่มาชวน ไม่ได้จำกัดว่าเป็นก๊วนใคร!

มาม่าบูลเล่าชัดถ้อยชัดคำถึงสไตล์ การเล่นหุ้นว่าเธอเป็นนักเก็งกำไรตัวยง โดยยอมรับว่ามักจะเล่นหุ้นตัวเล็กๆ ไม่ชอบเล่นหุ้นพื้นฐาน(หุ้นปัจจัยพื้นฐานดีหรือหุ้นบลูชิพ)

มาม่าบลูเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนว่า ฉันมันพวกนักเก็งกำไร ส่วนหุ้นพื้นฐานเป็นยังไง ฉันไม่รู้จัก

พร้อมพูดติดตลกอีกว่า อย่างหุ้น บมจ.ปตท.(PTT) ซื้อสะสมไว้ 1,000 หุ้นแล้ว แต่ก็ไม่รู้ทำไมเวลาสั่งซื้อแต่ละครั้ง(ซื้อคราวละ 100 หุ้น) ราคาหุ้นกลับไม่ไปไหนเลย เลยคิดว่าวันไหนที่หมั่นไส้หุ้นตัวนี้เพราะเห็นว่าราคาวิ่งขึ้นจัง ก็เลยเข้าไปซื้อทีละ 100 หุ้นทุกที แต่ราคาก็จะหยุดขึ้นทุกที พร้อมกับหัวเราะและพูดอีกว่า สมน้ำน่า(ราคา)อยากขึ้นดีนัก 5555

ส่วนสาเหตุที่ไม่ชอบเล่นหุ้นพื้นฐาน มาม่าบลู เล่าว่า เนื่องจากหุ้นเหล่านี้จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ โดยรอบที่ผ่านมาหุ้นที่ขึ้นแรง ๆจะเป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่นักลงทุนต่างชาติจะซื้อขายกันมาก ดังนั้นทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้าเมื่อไหร่ออกเมื่อไหร่ การเล่นหุ้นตัวใหญ่จะยากกว่าหุ้นขนาดเล็ก และจากประสบการณ์ที่เล่นหุ้นมากว่า 15 ปี ก็เล่นหุ้นตัวเล็กมาตลอดจึงมีความเข้าใจการเล่นหุ้นประเภทนี้ดี ทั้งตัวหุ้น จังหวะเข้าซื้อและขายออก ซึ่งรวมไปถึงการดูมูลค่าการซื้อขายด้วย

มาม่าบลู เผยกลยุทธ์การเล่นหุ้นอีกว่า หุ้นที่น่าสนใจต้องไม่ใช้หุ้นที่ราคาวิ่งขึ้นไปแล้ว นั่นเป็นช่วงปลายแล้ว ส่วนหุ้นที่น่าสนใจสำหรับเธอ คือ เป็นหุ้นที่ราคายังไม่วิ่ง อย่างไรก็ตามเซียนหุ้นรายนี้ยอมรับว่า การเล่นหุ้นขนาดเล็กก็ถือว่าเสี่ยงกับการขาดทุนสูง (opportunity loss) และยอมรับว่าที่ผ่านมาก็เคยมีขาดทุน!

และหากเข้าไปซื้อแล้ว เห็นว่าราคาหุ้นยังนิ่งๆไม่ไปไหน หรือมีโอกาสขาดทุนสูงก็จะยอมขายตัดขาดทุนทันที เพราะไม่รู้จะถือต่อไปทำไม นอกจากนี้มาม่าบลูยอมรับว่าที่ผ่านมามีหุ้นขนาดเล็กบางตัวรู้ๆกันอยู่ว่าเป็นหุ้นปั่น ซึ่งก็เป็นปกติเพราะหุ้นตัวเล็กปั่นง่าย สร้างข่าวได้ง่าย

มาม่าบลู กล่าวว่า ปัจจุบันเธอเปิดพอร์ตเล่นหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ประมาณ 10 ราย แต่ส่วนใหญ่มักจะนั่งเล่นหุ้นประจำอยู่ที่บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ชั้น 3 อาคารสินธรทาวเวอร์ แถมยังพูดติดตลกอีกว่า มานั่งเป็นเจ้าแม่ที่นี่

เรียบเรียง : 2Binvestor
เครดิต : Bizweek ,ฐานเศรษฐกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น