31 ตุลาคม 2555

ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ เซียนหุ้น VI นักแกะงบ

อยากเล่นหุ้นได้กำไรต้องอ่านงบการเงินให้ 'ขาดกระจุย' ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ เซียนหุ้น VI เจ้าของพอร์ต 'เลข 9 หลัก' 

ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ เซียนหุ้นวีไอ วัย 44 ปี เป็นที่ร่ำลือว่ามีความสามารถในการ "ถอดงบการเงิน" เป็นเลิศ เขามีข้อได้เปรียบตรงที่ว่าเคยผ่านงานธนาคารต้องวิเคราะห์สินเชื่อลูกค้าว่ามีกำลังผ่อนชำระคืนแบงก์ได้หรือไม่ เขานำประสบการณ์ตรงนั้นบวกกับความรู้ที่ร่ำเรียนมาวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า ความสามารถนี้เองที่ทำให้เขาสร้างผลตอบแทนในตลาดหุ้นได้อย่างงดงาม

ความแตกต่างจากเซียนหุ้นทั่วไป ฉัตรชัยจะทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นที่เขามั่นใจเพียงไม่กี่ตัว เรียกว่า "จัดเต็ม" แบบไม่กลัวเสี่ยง..ถ้าเขามั่นใจ ปัจจุบันเขาถือหุ้นเพียงแค่ 2 ตัว โดยหุ้นตัวแรกถือ 90% ของพอร์ต อีกตัวถือ 10% ของพอร์ต "ผมลงทุนไม่เหมือนคนอื่นเป็นคนซื้อหุ้นยากมาก ในรอบ 10 กว่าปีมานี้ถือหุ้นไม่กี่ตัว คนอื่นเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแต่ผมจะถือหุ้นไปจนกว่าจะถึงเกณฑ์ที่ตั้งเอาไว้ ในอดีตเคยถือหุ้นมากที่สุดแค่ 4 หุ้น ผมมันพวก “สเปกเยอะ” ถ้ามั่นใจตัวไหนผม “จัดเต็ม” อย่างตอนนี้มีหุ้นอยู่ในมือแค่ 2 ตัว ใครเป็นมาร์เก็ตติ้งผมไม่ค่อยได้ค่าคอมมิชชั่นเท่าไร" แม้ฉัตรชัยจะไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อหุ้นที่ซื้อ แต่จากการตรวจสอบ พบชื่อ มยุรี วงแก้วเจริญ ภรรยาของ ฉัตรชัย ถือหุ้น ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) 6,801,000 หุ้น สัดส่วน 2.52% และหุ้น แมนดารินโฮเต็ล (MANRIN) จำนวน 500,000 หุ้น สัดส่วน 1.86% ปัจจุบันมีมูลค่ารวมประมาณ 130 ล้านบาท 

18 ตุลาคม 2555

แรงบันดาลใจจากเทรดเดอร์ค่าเงิน "Effi Lang"

วันนี้จะขอพูดถึงอาชีพเทรดเดอร์อิสระต่อจากบทความก่อนหน้า("เทรดเดอร์อิสระกับชีวิตที่ไม่ง่าย") แต่คราวนี้ขอพูดถึงเทรดเดอร์ค่าเงินโดยเฉพาะ (Forex Trader) เพราะปัจจุบัน กระแสการทำเงินผ่านอินเตอร์เน็ต การเทรดผ่านออนไลน์ โดยเฉพาะข้อดีของตลาดนี้ที่สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง เล่นได้ทั้งขาขึ้นและขาลงโดยไม่มีข้อจำกัด ใช้เงินลงทุนน้อย leverage ได้มาก ทำให้นักลงทุนรายย่อยเริ่มหันมาให้ความนิยมมากขึ้น ประกอบกับในบางจังหวะตลาดหุ้นมีอาการหมีตะครุบ รายย่อยจึงหันไปเทรดค่าเงินกันแทน

สำหรับในเมืองไทย การเทรดค่าเงินเริ่มเป็นที่สนใจอย่างแพร่หลาย แม้ว่ากฎหมายบ้านเรายังไม่ได้ให้การรับรองก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับรายย่อย เพราะโลกปัจจุบันเป็นโลกไร้พรมแดนที่เชื่อมต่อกันด้วยอินเตอร์เน็ต ดังนั้น การเปิดบัญชี รวมถึงการโอนเงินต่างๆ จึงดูสะดวกสบายไปหมด (ไม่เชื่อลอง search ใน google ดู แล้วคุณจะรู้ว่ามันง่ายจริงๆ) ทำให้การเทรดค่าเงินกลายเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ที่ต้องการเรียนรู้โลกของการเทรด (แต่มากกว่าร้อยละ 90 หมดตัว เพราะตลาดค่าเงินได้ชื่อว่าใหญ่และโหดที่สุด!!!!!)

11 ตุลาคม 2555

'ธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง' เซียนหุ้นผู้วางเดิมในหุ้นไม่เกิน 5 ตัว

เขาเป็นผู้หนึ่งที่เคยเจ๊งหุ้น 'ฟินวัน' ของ ปิ่น จักกะพาก วันนี้เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งในกลุ่ม 'วีไอ' ธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง วางเดิมพันหนักในหุ้นไม่เกิน 5 ตัว 


เขาไม่เชื่อในเรื่องการกระจายความเสี่ยง เท่าไรนัก เฉกเช่นเดียวกับวอรเรน บัฟเฟต ที่เคยกล่าว่ว่า "การกระจายการลงทุนเป็นการป้องกันความเสี่ยงสำหรับคนที่ปล่อยปละละเลย แต่ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลยสำหรับคนที่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่"

"เอก" ธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง ไม่เพียงเป็นนักธุรกิจเจ้าของ 3 บริษัท ทำธุรกิจด้านโบรกเกอร์ประกันภัย โบรกเกอร์ประกันชีวิต และขายสินค้าทางโทรศัพท์ มีพนักงานในเครือประมาณ 350 คน เขายังเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งในกลุ่มวีไอ มีพอร์ตลงทุนใหญ่หลักร้อยล้านบาท

ธวัชชัย เล่าว่า ทุกวันนี้จะพยายามถือไม่ให้เกิน 5 ตัว กลุ่มหุ้นที่ชอบมากที่สุดคือ "กลุ่มสื่อสาร" ยิ่งมองข้ามไปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ผลประกอบการค่อนข้างโดดเด่นหากประมูล 3G ได้กลุ่มสื่อสารน่าจะมีอัตราเติบโตต่อปีสูงมาก อีกทั้งจากสัญญา "สัมปทาน" จะเปลี่ยนเป็น "ใบอนุญาต" ผลตอบแทนที่จ่ายให้รัฐจะลดลงเยอะมาก สำหรับบริษัทที่จะได้ประโยชน์สูงสุดก็ต้องเป็นบริษัทที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ มีจุดเด่นในเรื่องฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งไม่ขอเอ่ยชื่อว่าเป็นหุ้นตัวไหน

Joe Chalhoub เทรดเดอร์ค่าเงินผู้ไม่ยอมแพ้

Joe Chalhoub เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ในบริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนจะหันมาเป็น forex trader เขาเริ่มเทรดค่าเงินเมื่อหลายปีก่อน โดยในช่วงสามเดือนแรก การเทรดของเขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เขาเล่าให้ฟังว่า "ผมยังจำได้ตอนที่ผมเสียเงินทั้งหมดของผมไป ตอนนั้นผมคิดว่าผมอยากจะเลิกเทรด แต่ว่าผมก็เลิกไม่ได้ ผมรู้สึกว่า ถ้าผมเลิกตอนนั้น มันอาจจะหมายถึงผมได้พลาดโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตไปก็ได้ ตอนนั้นผมเลยเพียงแค่หยุดเทรดชั่วคราวไปก่อน...

หลังจากนั้นเขาได้เริ่มที่จะสังเกต ศึกษาวิเคราะห์ และฝึกฝนอย่างหนัก  "ผมเริ่มที่จะสังเกตุเฝ้าดูตลาดว่าอะไรทำให้มันเคลื่อนไหวบ้าง"  เขาเริ่มศึกษาการวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคว่าแต่ละตัวมันสามารถทำนายตลาดได้อย่างไร และเขาจะใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองได้อย่างไร เขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงเทคนิคที่นักเทรดที่มีประสบความสำเร็จใช้กันเป็นอย่างไรอย่างหนัก.....

 "ผมเปิดบัญชีเดโมขึ้นมาและเทรดค่าเงินจำลองในเทคนิคต่างๆ โดยติดตามดูผลงานของมันอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ศึกษามา 1 ปี หลังจากลองผิดลองถูกอยู่นานนับปี กับความล้มเหลวในการเทรดที่นับครั้งไม่ถ้วน ผมก็ได้เข้าใจถึงวิถีแห่งกลยุทธ์ของผมเองและเริ่มที่จะทำกำไรได้ในแต่ละเดือน"