18 เมษายน 2556

จำกัดการขาดทุน เคล็ดลับนักเก็งกำไรชั้นยอด Serge Milman

อาชีพนักเก็งกำไรก็คืออาชีพๆหนึ่งที่คุณต้องเรียนรู้เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหมอ วิศวกร ทนายความหรือแม้แต่ช่างตัดผม ทุกๆอาชีพคุณต้องเรียนรู้และเข้าใจมัน คุณถึงจะยึดเป็นงานเลี้ยงชีวิตและครอบครัวคุณได้

อาชีพนักเก็งกำไรก็เช่นเดียวกันที่ไม่อาจหลีกหนีเงื่อนไขอันนี้ได้พ้น คุณอย่าคิดว่าคุณประสบความสำเร็จในอาชีพอื่นแล้ว จะสามารถเข้ามาในตลาดหุ้นโดยไม่มีการเรียนรู้แล้วหวังจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับอาชีพเดิมของคุณ ยากครับ ยากมากๆ

Serge Milman นักเก็งกำไรหุ้นที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งใน wall street เขาเคยมีรูปขึ้นปกนิตรสาร "Forbes" ด้วยรอยยิ้มกว้างๆของเขา ทำให้ดูเหมือนว่าการเก็งกำไรในตลาดหุ้นนั้น มันเหมือนกับเส้นทางลัดไปสู่ความร่ำรวยได้อย่างง่ายดาย !!!! ซึ่งเขาได้เปิดเผยเรื่องราวของตน พร้อมเคล็ดลับในการเก็งกำไรของเขาที่ดูเหมือนจะแสนง่าย เข้าใจได้ แต่เชื่อเหอะ ว่ามันทำตามได้ไม่ง่ายเลย



Milman อพยพมาจากประเทศรัสเซียพร้อมกับครอบครัวของเขาตอนอายุได้ 5 ขวบ เขาเติบโตใน New York ท่ามกลางผู้อพยพที่ทำงานอย่างหนัก แต่เขาโชคดีที่ได้เข้าศึกษาวิชาคอมพิวเตอร์และการเงินในมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบเขาทำงานเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ในโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง และใช้ช่วงเวลานั้นเฝ้าติดตามนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จโกยเงินจากตลาดหุ้น เขาเฝ้าพยายามเรียนรู้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จเขาทำแบบไหน ซื้อขายอย่างไร จนในที่สุดเขาจึงตัดสินใจลาออกจากงานและเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นของตัวเอง

"การลงทุนในช่วงแรกๆ ผมมีเงินออมส่วนตัวประมาณ $15,000 แล้วก็ยืมจากพ่อแม่ ยืมจากเพื่อนของท่าน จากเพื่อนของผม ได้มาจำนวนหนึ่งซึ่งก็ไม่มากนัก และผมก็รู้สึกเสียวๆ อยู่เหมือนกันว่าถ้าขาดทุนทั้งหมดแล้วจะมีปัญญาหาเงินที่ไหนมาใช้คืนให้พวกเขา แล้วผมก็โดนเข้าจนได้ ถึงไม่หมดก็เกือบหมด แค่ 3 เดือนขาดทุนไป $12,000 ซึ่งเป็นเงินมากโขอยู่พอสมควรสำหรับผมที่ต้องยืมเงินคนอื่นมาเล่น"

การขาดทุนมากๆ ในเวลาอันรวดเร็ว ถามผมว่าท้อแท้หรือสิ้นหวังหรือไม่นั้น?
"ผมรู้สึกว่ายังเป็นมือใหม่ที่ต้องเรียนรู้อะไรอีกมากในตลาดหุ้น ดังนั้นผมเริ่มเรียนให้หนักขึ้น เอาจริงเอาจังให้มากขึ้นและเริ่มเล่นอย่างระมัดระวัง ซื้อให้น้อยลงเพื่อศึกษามันก่อน แล้วความพยายามของผมก็เริ่มมีผล ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปตามครรลองที่มันควรจะเป็น จนกลายมาเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ผมต่อสู้ เพราะผมรู้ว่าทำอะไรผิด ผมเขียนมันลงไปในสมุดบันทึกเป็นเวลนานถึง 6 เดือน ที่ผมเคยเขียนไว้ก็เช่น ต้องรู้จักระดับราคาให้ดีขึ้น คุณซื้อตรงจุดสูงสุด คุณซื้อในขณะที่คุณควรขาย ฯลฯ ผมทำผิดไปเสียทุกอย่าง ความจริงผมก็เลือกหุ้นถูกตัวแล้วแต่จังหวะการซื้อขายของผมพลาดไปหมด ผมใช้เวลานานพอสมควรเพื่อแก้ไขสิ่งเหล่านี้ให้ดีขึ้น ไม่มีอะไรดีไปกว่าจังหวะซื้อขายที่ถูกต้องในการเรียกความมั่นใจกลับคืนมา"

ถ้าคุณไม่มีความมั่นใจ เวลาเข้าไปเทรดคุณก็จะตั้งรับอยู่เรื่อยเปรียบเสมือนกับเวลาขับรถ เท้าคุณอยู่ที่เบรกตลอดเวลา คุณไม่ยอมเหยียบคันเร่งปล่อยให้รถไหลไปช้าๆตามถนน หากคุณเทรดแบบเกมรุกพร้อมพร้อมด้วยความมั่นใจก็เท่ากับเท้าคุณเหยียบไปที่คันเร่ง รถของคุณทะยานไปข้างหน้า ในที่สุดคุณก็ถึงจุดหมายปลายทาง การซื้อหุ้นคุณสามารถทยอยซื้อที่หลายๆระดับราคาจะได้หุ้นครบตามจำนวนที่ต้องการ การซื้อหุ้นที่หลายราคาจะทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าการตั้งซื้อที่ระดับราคาเดียว ซึ่งหากราคาหุ้นลดลงต่ำกว่าระดับราคาที่คุณซื้อคุณก็จะป็นกังวลและหมดความมั่นใจทันที สรุปแล้วตลาดขาขึ้นก็เปรียบเสมือนขับรถขึ้นดอย ถ้าคุณไม่เหยียบคันเร่งคุณก็ไม่มีทางไปถึงยอดดอยได้ เมื่อไปถึงยอดดอยแล้วขาลงดอยคุณจึงค่อยแตะเบรก

การเก็งกำไรก็เหมือนกับเกมฟุตบอลที่ต้องมีการซ้อมอย่างหนักก่อนการลงสนามแข่งขัน ทุกๆวันคือการแข่งขันประจำวัน
"สิ่งที่ผมต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษก่อนการแข่งขันทุกครั้งก็ไม่ได้มีอะไรมาก ผมแค่ทำตัวให้สบายๆ ซัก 9.00 ผมก็จะเข้าไปดูว่าตลาดต่างประเทศมีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง อ่านข่าวเล็กน้อย พอ 9.30 น. ผมต้องวางแผนการลงทุนไว้ในใจแล้ว อย่างไรก็ตามคุณต้องเปลี่ยนแปลงแผนให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงระหว่างวันเสมอ แต่นั่นมันไม่ง่ายเลย เพราะคู่ต่อสู้ของคุณไม่ใช่ธรรมดา จำไว้ว่าทุกสถาบันการเงินไม่ว่าในหรือต่างประเทศจะส่งมือดีที่สุดอันดับ 1-5 ของเขามาลงสนามแข่งขัน สนามที่ผมลงทุน เซียนหุ้นลงทุน และที่คุณลงทุน คือสนามเดียวกันครับ ทุกคนล้วนมองหาทางทำกำไร ซึ่งคนที่เก่งที่สุดของวันเท่านั้นที่จะได้มันไป"

เคล็ดลับที่จะอธิบายเกี่ยวกับการทำได้ดีในธุรกิจนี้?
"ความจริงก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมต้องจำกัดการขาดทุนของผมเสมอ ผมไม่รอจนผมแน่ใจแล้วว่าผมพลาดจริงๆแล้วจึงขาย ผมพยายามรับการขาดทุนเพียงเล็กน้อยที่ระดับ 3-5% มันไม่มีเหตุผลที่จะขาดทุนหากคุณสามารถหลีกเลี่ยงมันได้ การทำกำไรว่ายากแล้วแต่การตัดขาดทุนกลับยากยิ่งกว่า นักเก็งกำไรทั่วไปมักไม่เต็มใจยอมรับว่าพวกเขาพลาดจนกว่าความชัดเจนจะปรากฏขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาก็คือการสูญเสียอย่างหนัก ผมไม่อยากเป็นแบบคนพวกนี้ซึ่งครั้งหนึ่งผมก็เคยเป็น"

เริ่มจากนักเก็งกำไรทั่วๆไป จนกลายมาเป็น Super Star
มันเป็นความสำเร็จที่ผมไม่รู้ตัวว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะว่าครั้งหนึ่งเมื่อผมเริ่มทำกำไร ผมคิดเพียงว่า "ฉันแค่โชคดี ลองดูอีกทีซิว่าฉันจะมีโชคอีกไหม" ที่จริงแล้วผมไม่ได้ทำกำไรหรอก ผมเพียงแต่ไม่ขาดทุน ผมไม่ได้เป็นนักเก็งกำไรที่ยอดเยี่ยมแต่ผมก็ไม่ใช่นักลงทุนที่ยอดแย่อีกต่อไป

การเลือกจังหวะเข้า-ออกในการลงทุนที่ดีนำมาซึ่งความสำเร็จ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเมื่อคุณผิดพลาดคุณต้องรีบออกมาโดยเร็ว ถ้าพลาดแล้วอย่าดื้อดึง จำไว้ว่า "ข้อสำคัญในเกมนี้ก็คือ อย่าขาดทุนให้มาก แล้วคุณก็จะเป็นผู้ชนะ"

เรียบเรียง : 2Binvestor
เครดิต : ส่วนหนึ่งจากหนังสือเทคนิคเล่นหุ้นให้รวยพันล้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น