วันนี้ขอหยิบหนังสือเพื่อการลงทุนในหุ้นที่เหมาะสมสำหรับคนรุ่นใหม่มา review ให้ผู้ที่กำลังจะหาหนังสือเล่นหุ้นมาอ่านเพื่อเกาะกระแสตลาดหุ้นฟีเวอร์ ที่เขียนโดย ฮง สถาพร งามเรืองพงศ์ ต้องขอย้ำว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่เขียนจากประสบการณ์จริงของเซียนหุ้นรุ่นใหม่ที่มีอายุเพียง 26 ปี แต่สามารถประสบความสำเร็จจากเงินหลักแสนเป็นเงิน 8 หลักภายในเวลาไม่กี่ปี
ในหนังสือเล่มนี้ ฮง พยายามเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจหลักการลงทุนได้ง่ายๆ และสามารถนำไปใช้งานได้จริง โดยพยายามอธิบายถึงหลักการลงทุนที่ถูกต้อง และเน้นย้ำว่า "ตลาดหุ้นไม่ใช่แหล่งการพนัน" และ "การซื้อหุ้นก็คือการที่เราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแห่งนั้น" ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเป็นแนวทางการลงทุนที่บ้านเราเรียกว่าการลงทุนหุ้นคุณค่า (หรือที่เรียกว่าสไตล์ VI) ที่มี ดร.นิเวศน์ เหมวชิราวรากร เป็นผู้ริเริ่มคนแรกๆของเมืองไทย แต่เทคนิคในการลงทุนของเขาจะแตกต่างจาก ดร.นิเวศน์ และ VI ท่านอื่นๆ ตรงที่ระยะเวลาในการถือครองที่เฉลี่ยจะถือประมาณ 6 เดือน - 1 ปี แต่ ดร.นิเวศน์จะถือไปเรื่อยๆ จนกว่าพื้นฐานของกิจการจะเปลี่ยนแปลงหรือราคาเกินมูลค่าไปมาก......
นอกจากนี้ ภายในหนังสือ เขายังแนะนำขั้นตอนในการเลือกหุ้น โดยเขาจะให้ความสำคัญในการพิจารณาภาวะอุตสาหกรรมเป็นอันดับแรก เพราะเขาเชื่อว่าถ้าอุตสาหกรรมที่เราลงทุนเป็นขาขึ้น โอกาสที่ผู้ประกอบการทุกรายจะทำกำไรได้มากขึ้นเป็นเรื่องง่ายมาก จากนั้นถึงว่าเฟ้นหาบริษัทที่มีความแข็งแกร่งกว่าคู่แข่ง ซึ่งเขาให้อธิบายให้มือใหม่เข้าใจการอ่านงบการเงินอย่างง่ายๆ รวมถึงเทคนิคในการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน และการดูความถูกแพงของหุ้นที่จะซื้อ
โดยเขา ได้บอกเทคนิคการลงทุนที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกหุ้นให้ผู้อ่าน นั่นคือ
" สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเลือกหุ้นที่ เพิ่งทำจุดสูงสุดใหม่ของกำไร และต้องอ่านเกมต่อไปว่า ไตรมาสที่เหลือ ของปีนั้นๆ ต้องสามารถรักษากำไรสุทธิระดับนี้ได้ต่อเนื่อง ขั้นตอนจากนั้นต้องเลือกหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 6-7 % ต่อปี และข้อสุดท้าย ต้องเลือกหุ้นที่ซื้อขายต่ำกว่า P/E ของกลุ่มเหล่านี้ คือคุณสมบัติเบื้องต้นของหุ้นที่จะสร้างผลตอบแทนได้สูงจากการลงทุน"
โดยเขาให้หยิบยกตัวอย่างการลงทุนที่ผ่านมาของเขาให้ผู้อ่านได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นอีกด้วย โดยเขายืนยันว่าคุณไม่จำเป็นต้องเลือกหุ้นถูกทุกครั้ง แต่สำคัญว่าเวลาที่คุณถูกคุณกำไรให้มากกว่าที่คุณผิดก็พอ (คำพูดของจอร์จ โซรอส) และนี่เป็นเหตุผลที่เขาจะมีจุดตัดขาดทุนเสมอ โดยเขาจะยอมขาดทุนไม่เกิน 5-8% เขาบอกว่าการ cut loss เป็นการประกันว่าในกรณีเลวร้ายที่สุด เขาจะไม่หมดตัวจากตลาดหุ้น นี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่เขาแตกต่างจาก VI รุ่งพี่หลายๆคนที่จะไม่มีการ cut loss เพราะเชื่อว่าหากกิจการยังดีเหมือนเดิม มูลค่าของกิจการย่อมไม่เปลี่ยนแปลงไป ราคาเป็นเพียงผลสะท้อนระยะสั้นจากสภาวะตลาดเท่านั้น ในระยะยาวราคาจะกลับมาสะท้อนมูลค่าของมันนนน
สุดท้ายเขายังได้ปิดท้าย โดยให้ข้อคิดสำหรับมือใหม่ ว่า " การเล่นหุ้นให้ได้กำไรชนะตลาดในระยะยาวต้องอาศัยความพยายามสูงมาก ซึ่งความพยายามนั้นก็ต้องมาจากทัศนคติที่ถูกต้องและพร้อมจะทุ่มเทก่อน แต่หลายคนไม่มีความคิดแบบนั้นรู้สึกว่าอยากได้เงินง่ายๆ แค่นี้ก็จบแล้ว คุณไม่มีทางรอดในตลาดหุ้นระยะยาวได้ คุณเป็นแค่หมูอ้วนๆตัวหนึ่งในตลาดหุ้นที่ เสือ สิง กระทิง แรด อยากจะรุมสกัมให้เหลือแต่กระดูก "
By : 2Binvestor
หมายเหตุ : ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาชี้นำใดๆ และไม่มีผลประโยชน์จากการ review ทั้งสิ้น จุตประสงค์เพียงเพื่อต้องการให้นักลงทุนได้ไอเดียการลงทุนและทราบเนื่อหาคร่าวๆ ก่อนจะควักเงินซื้อหนังสือเท่านั้นเองงงง.........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น