28 เมษายน 2555

ลอกคราบขบวนการปั่นหุ้น!!!!!

ตลาดหุ้นกับการเก็งกำไรเป็นของคู่กัน ซึ่งแรงเก็งกำไรในบางครั้งอาจก้าวล่วงไปสู่การ(สร้าง) ปั่นราคาหุ้น เพราะหลายครั้งพบว่าแรงเก็งกำไรที่เกิดขึ้นเกิดจากการวางแผนหรือทำข้อตกลงร่วมกันของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ไม่กี่คน เพียงแต่กระบวนวิธีมีความแตกต่างกันไปตามโอกาสและกาลเวลา

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การปั่นหุ้นยังคงเกิดขึ้นตลอดเวลา หน้าเก่าไป หน้าใหม่มา ตลาดหุ้นยังคงเป็นแหล่งทำเงินให้ก๊วนปั่นหุ้นอย่างเป็นกอบเป็บกำ ก๊วนบางก๊วน ต้องนั่งคิดกันนานหลายวันทีเดียว ว่าปั่นหุ้นรอบนี้จะซื้อรถสปร์อตรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดีน้าาาาาา - -'' จนอาจกล่าวได้ว่า ตราบใดที่ความโลภยังมีอยู่ โอกาสทำเงินของคนพวกนี้ก็จะไม่หมดไป และแน่นอน ว่ามันไม่มีทางหมด เมื่อมนุษย์กับความโลภเป็นของคู่กัน!!!!


ดังนั้น การเรียนรู้กลวิธีในการปั่นหุ้นจึงเป็นเหมือนการรู้กลวิธีในการดักจับตัวเอง ซึ่งมันอาจทำให้เรารู้สึกถึงความน่ากลัวของตลาดหุ้นและอาจจะขยาดได้ แต่เชื่อเหอะว่าการเรียนรู้และเข้าใจคู่ต่อสู้ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อไม่ไห้เราตกเป็นเหยื่อของเจ้ามือเหล่านี้ โดยใช้ "ความโลภ"เป็นตัวล่อแมงเม่าอย่างเราเรา

สูตรสำเร็จของความพยายามในการปั่นหุ้น ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบันจะมีด้วยกัน 5 ขั้นตอน
โดยขั้นตอนแรก เริ่มจากการจับก๊วนหรือภาษาทางการหน่อยจะเรียกกลุ่มพันธมิตร ตรงนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าของหรือผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนมักจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยอาจมีการตกลงผลประโยชน์กัน เพราะเจ้ามือจะไม่กล้าปั่นถ้ายังไม่ได้ตกลงกับเจ้าของเพราะโอกาสผิดพลาดที่เจ้าของจะให้ข่าวหรือขายกดราคาระหว่างที่พวกเจ้ามือกำลังดันราคากันอาจเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น พวกผู้บริหารที่ออกมาปฏิเสธมาไม่รู้ว่าทำไมราคาหุ้นของตนพุ่งขึ้นรุนแรงนั้น เชื่อได้เลยว่ากว่า 99% โกหก!!!!! โดยหุ้นเป้าหมายที่จะสร้างราคานั้นในปัจจุบันจะเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานรองรับไม่ใช่หุ้นไก่กาเหมือนในอดีต

เมื่อได้ก๊วนหรือพันธมิตรที่แน่นอนแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่สอง คือ การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์ต่างๆ ตรงนี้ ในอดีตการเปิดบัญชีจะทำเป็นชื่อของตัวเอง ญาติพี่น้องบ้าง เพื่อนฝูงบ้าง แต่ปัจจุบันจะมีการแตกบัญชีออกไปคนละมากกว่า 10 บัญชีโดยไม่ให้มีความสัมพันธ์กับก๊วนเพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน โดยก๊วนดังกล่าวจะทยอยเข้าไปเก็บหุ้นเป้าหมายทีละนิด ทีละหน่อย โดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น จนได้หุ้นครบตามจำนวน ซึ่งในช่วงนี้ราคาหุ้นจะนิ่งๆ วอลุ่มก็ไม่มี พวกเจ้าจะทำอย่างเงียบที่สุด ซึ่งอาจจะใช้เวลาตั้งแต่หลายอาทิตย์ไปจนถึงหลายเดือน ช่วงนี้ เมื่อเจ้ามือไม่ยอมให้เราเห็น เชื่อเหอะว่าเราก็คงไม่เห็น!!!!
หลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สาม ซึ่งเป็นขั้นตอนของการผลักดันราคาหุ้น คือจะมีการส่งคำสั่งซื้อ ค่ำสั่งขายเพื่อให้ราคาหุ้นขยับขึ้น สิ่งที่เห็นในขั้นตอนนี้คือ ราคาหุ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วร้อนแรงเพื่อดึงความสนใจจากนักลงทุนรายย่อย เมื่อถึงจุดนี้เราจะเห็นวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

สิ่งที่เกิดขึ้นในขั้นตอนที่สามคือ เมื่อราคาหุ้นยิ่งขึ้น ความสนใจจากรายย่อยก็ยิ่งเพิ่มและมักจะกระโดดเข้ามาร่วมวงด้วย จำนวนนักลงทุนรายย่อยที่เคยตรวจพบว่าเข้ามาร่วมวงด้วยมีตั้งแต่ 100 คนไปจนถึงระดับ 2-3 พันคน ซึ่งช่วงนี้เครื่องมือตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์จะทำงานแล้วว่าเข้าเกณฑ์การใช้คำสั่งห้ามเน็ตเซทเทิลเม้นท์ (การซื้อขายแบบหักลบกลบหนี้ในหุ้นตัวเดียวกันวันเดียวกัน) และมาร์จิ้นเทรด (การให้วงเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหุ้นแก่ลูกค้า)

ส่วนขั้นตอนที่สี่ จะเป็นขั้นตอนที่สนับสนุนขั้นตอนที่สาม คือ เป็นขั้นตอนการปล่อยข่าวต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น กระบวนการปล่อยข่าวตรงนี้มีตั้งแต่การปล่อบข่ายโดยผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนเอง เช่น การแจ้งข่าวแผนงานใหม่ ดีลซื้อหรือควบรวมกิจการ ข่าวเพิ่มทุน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการปล่อยข่าวในลักษณะเชิงข่าวลือต่างๆ ซึ่งจะทำผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ โดยการให้ข่าวเรื่องโครงการหรือแผนงานต่างๆกับนักข่าว โดยไม่ยอมให้เปิดเผยที่มาของแหล่งข่าว หรืออีกวิธีคือ ปล่อยข่าวลือตามห้องค้าหุ้น โดยบอกผ่านโบรกเกอร์หรือนักลงทุนรายอื่นๆ จะเป็นลักษณะการกระจายข่าวแบบปากต่อปาก จนมาถึงในปัจจุบันกระบวนการปล่อยข่าวในยุคดอตคอม จึงมีพัฒนาการทำกันผ่านเว็ปไซต์ต่างๆ เช่น pantip หรือแม้กระทั่ง facebook ในช่วงนี้ รายย่อยมักจะได้กำไร เพราะยังสามารถซื้อและขายออกแพงกว่าได้ ซึ่งก็มักติดใจ มักจะกลับเข้ามาซื้ออีกหลายๆครั้ง

ส่วนขั้นตอนสุดท้าย คือ ขั้นตอนการปล่อยของ โดยหุ้นส่วนหนึ่งจะถูกขายออกมาในระหว่างที่ปล่อยข่าวลือและดันราคาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ขั้นตอนที่ห้านี้ จะเป็นลักษณะของการปล่อยหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดในพอร์ต คือ ทิ้งทุกราคา ถ้าสังเกตราคาหุ้นจะค่อยๆปรับลดลงและรุนแรงในท้ายที่สุด จากนั้นราคาหุ้นจะนิ่งสนิท ในขั้นตอนนี้เอง รายย่อยส่วนมากจะตายกันเป็นแถว เพราะราคาที่ปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรง ประกอบกับเพิ่งได้กำไรจากหุ้นตัวนี้หรือเห็นคนอื่นเค้าได้เงินกันเยอะแยะ มักจะไม่ทันระวัง และความโลภเข้าครอบงำ เมื่อรายย่อยเห็นราคามันปรับตัวลงก็จะรีบเข้าไปรับ ยิ่งลงยิ่งรับ ถัวเฉลี่ยกันเข้าไป เพราะคิดว่ามันจะวิ่งทะลุฟ้ากลับขึ้นไปอีกเหมือนเดิมแน่ๆ หารู้ไม่ว่าหายนะกำลังมาเยือน !!!!! ตรงนี้ก็มือขาดไปตามๆกัน เพราะมันไม่กลับขึ้นไปที่เดิมอีกแล้วววววว บางคนหมดเนื้อหมดตัวเลยทีเดียว บางคนที่สามารถตัดใจ cut loss ได้ ก็เครียดจนนอนไม่หลับ แต่ก็ต้องขอยินดีด้วยเพราะการตัดแขนทิ้งและเหลือชีวิตไว้น่ะถูกต้องแล้ว ......เพราะอย่างน้อยเราก็มีชีวิตไว้เริ่มต้นและต่อสู้ใหม่อีกครั้งได้

นี่คือสูตรสำเร็จของขบวนการปั่นหุ้นที่ได้รับการเปิดเผยจากมือปราบการปั่นหุ้นของตลาดหลักทรัพย์
หวังว่าเมื่อรู้แบบนี้แล้ว การเข้าซื้อหุ้นครั้งต่อไป จะหาทางหนีทีไล่ได้นะ ^^

By 2Binvestor
เครดิต : ข้อมูลส่วนนึงจากหนังสือเทคนิคเล่นหุ้นให้รวยพันล้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น