25 เมษายน 2555

ซื้อหุ้นตอนไหนดี $ $ ฉบับบัฟเฟตต์


ครั้งหนึ่ง เซอร์ไอแซค นิวตัน เคยพูดไว้ว่า "ผมสามารถคำนวณการเคลื่อนที่ของท้องฟ้าได้ แต่ผมไม่สามารถคำนวณความบ้าคลั่งของมนุษย์ได้"

อะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้? ตลาดจะขึ้น จะลง หรือจะทรงตัว? สำหรับบัฟเฟตต์ คำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจ ยกเว้นว่ามันจะเป็น "โรคติดต่อร้ายแรง" ของความกลัวและความโลภ จนมีผลกระทบต่อโอกาสในการลงทุนของเขา ไม่ว่าจะเป็นการตกลงของราคาแล้วสร้างโอกาสในการซื้อ (ตลาดมีความกลัวเกิดขึ้น) หรือการเพิ่มขึ้นของราคาแล้วโอกาสในการซื้อหมดไป (ตลาดมีความโลภเกิดขึ้น) บัฟเฟตต์เตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหวเมื่อเขามีโอกาส และถ้าความโลภเข้าครอบงำเขาก็พร้อมที่จะรออยู่ข้างสนาม !!!!!

ตลาดหุ้นจะได้รับอิทธิพลจากโรคระบาดร้ายแรงที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ของความโลภและความกลัวเป็นระยะระยะ และบัฟเฟตต์ ก็มักจะออกมาต่อต้านการระบาดของโรคติดต่อทางอารมณ์อยู่บ่อยครั้งโดยการประพฤติตัวในทางตรงกันข้ามกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่


ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่กำลังโลภ บัฟเฟตต์ก็จะตื่นกลัว (หรืออย่างน้อยก็ระมัดระวังตัวอย่างถึงที่สุด) ถ้านักลงทุนส่วนใหญ่กำลังตื่นกลัว บัฟเฟตต์ก็จะโลภ (หรืออย่างน้อยก็มีความอยากได้มากกว่าปกติ) จากการใช้กลยุทธ์แบบนี้บัฟเฟตต์สามารถทำเงินได้จำนวนมหาศาลในขณะที่คนอื่นๆ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก

บัฟเฟตต์จะไม่ลงทุนถ้าราคาหุ้นกำลังพุ่งขึ้นอย่างไร้เหตุผลและสวนทางกับมูลค่าที่แท้จริวของธุรกิจ อีกนัยหนึ่งก็คือราคาหุ้นพุ่งจนหลุดออกจากแรงดึงดูดของผลประกอบการที่แท้จริงของธุรกิจ

เมื่อตลาดกระทิงช่วงทศวรรษที่ 1960 นั้นเดินมาถึงจุดจบ และเมื่อตลาดหุ้นพังทลาย นักลงทุนส่วนใหญ๋ก็จะตกอยู่ในความตื่นกลัวอย่างถึงที่สุด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นหลังจากการเกิดช่วงของความเชื่อมั่นมากเกินไป และแทนที่จะซื้อหุ้น นักลงทุนส่วนใหญ่กลับทิ้งหุ้นของพวกเขาราคาหุ้นจึงดิ่งลงเหว แล้วพวกเขาก็หยุดลงทุน

ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 ก็เช่นกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงตลาดหมีที่หนักที่สุดครั้งหนึ่ง ผู้คนพากันกลัวแล้วขายหุ้นของพวกเขา ผู้คนพากันหมดหวังและดัชนีดาวโจนส์ก็ตกลงต่ำกว่า 700 จุด ซึ่งคุณสามารถคาดเดาได้เลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป??? แน่นอน บัฟเฟตต์เริ่มที่จะเข้ามาซื้อหุ้น ที่จริงแล้วเขาซื้อหุ้นเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ และหุ้นที่เขาซื้อช่วงนี้นี่แหละ ทีทำให้เขาร่ำรวยขึ้นมาเป็นอภิมหาเศรษฐีของโลก

และต่อไปนี้ คือกฎที่คุณจะต้องพกติดตัวเมื่อคุณจะใช้สูตร "ตื่นกลัวเมื่อคนอื่นกำลังโลภ" กับกลยุทธ์การลงทุนของคุณ

1) ซื้อเมื่อคนอื่นกำลังขายและขายเมื่อคนอื่นกำลังซื้อ ท่องเอาไว้ในใจเสมอว่า จงกลัวเมื่อนักลงทุนส่วนใหญ่กำลังโลภ บัฟเฟตต์พูดว่า หุ้นจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจเมื่อไม่มีใครสนใจมัน นี่คือความจริงในหลายๆเรื่อง (อสังหาริมทรัพย์เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด) แต่เฉพาะตลาดหุ้นเท่านั้นที่สามารถตรวจจับการตื่นตกใจของฝูงชนได้ง่ายที่สุด (ที่จริงแล้วจากความแพร่หลายของข่าวสารทางการเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เห็นฝูงชน) เมื่อฝูงชนกำลังตื่นกลัว พวกเขาจะไม่สนใจในการซื้อหุ้นและนั่นหมายความว่าคุณจะต้องสนใจในหุ้น และแน่นอนว่าคุณจะต้องทำตามคำแนะนำของบัฟเฟตต์อีกข้อหนึ่งด้วยนั่นคือ อย่าปิดหูปิดตาลงทุนอย่างไร้สติ คุณควรลงทุนเมื่อหุ้นที่คุณจะซื้อนั้นผ่านเขื่อนไขที่ตั้งเอาไว้แล้วเท่านั้น

2) จงเตรียมพร้อมที่จะลงทุนอย่างรวดเร็วเมื่อโอกาสนั้นมาถึง เมื่อดัชนีดาวโจนส์ตกลงติดดินในปี 1974 ที่ 580 จุด บัฟเฟตต์เรียกตัวเองว่า "หนุ่มกลัดมันในฮาเล็ม" จงเตรียมพร้อมที่จะลงทุนอย่างรวดเร็วและกล้าหาญเมื่อควากลัวเข้าครอบงำและตลาดหุ้นดิ่งเหว

เรียบเรียง : 2Binvestor
เครดิต : ส่วนหนึ่งจากหนังสือ How BUFFETT Does it

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น